เมื่อท่านมีอาการเจ็บหน้าอก อาจแสดงถึงภาวะดังนี้
1. | กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด | |
2. | กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน | |
3. | โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ถุงน้ำดี แผลในกระเพาะอาหาร ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถแยกอาการเจ็บหน้าอก ออกจากอาการจุกเสียดท้อง และไม่มีอาการแสดงอื่นๆ เกี่ยวกับโรคหัวใจ | |
4. | โรคปอดบางชนิด โรคถุงลมปอดแตก ปอดอักเสบ หลอดเลือดปอดอุดตัน |
ข้อควรปฎิบัติหากท่านเจ็บแน่นหน้าอก
1. | หยุดกิจกรรมที่ทำอยู่ นั่งพัก และร้องเรียกขอความช่วยเหลือ | |
2. | หากอาการไม่ดีขึ้น รีบให้ญาตินำส่งโรงพยาบาล เพื่อตรวจรักษา | |
3. | กรณีที่ท่านเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว รีบอมยาใต้ลิ้น ครั้งละ 1 เม็ด จนกว่ายาจะละลายหมด โดยท่านสามารถอมยาใต้ลิ้นได้ 3 ครั้ง และห่างกันประมาณ 5 นาที หรืออมยาเมื่อยาเม็ดเก่าละลายหมด หากอาการยังไม่ดีขึ้น ให้รีบมาโรงพยาบาล |
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค
1. | ภาวะไขมันในเลือดสูง | |
2. | ความดันโลหิตสูง | |
3. | โรคเบาหวาน | |
4. | สูบบุหรี่ |
นอกจากนี้ยังมีสาเหตุส่งเสริม จากภาวะเครียด อายุ และ เพศ ร่วมด้วย
การรักษาเบื้องต้นที่ท่านจะได้รับ เมื่อมาโรงพยาบาลด้วยอาการเจ็บแน่นหน้าอก
1. | ยาบรรเทาอาการเจ็บหน้าแน่นหน้าอก ชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดดำ | |
2. | ออกซิเจน | |
3. | ยาขยายหลอดเลือด ชนิดอมหรือพ่นใต้ลิ้น หรือชนิดหยอดเข้าหลอดเลือดดำ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บแน่นหน้าอก | |
4. | ยาแอสไพริน |
การป้องกัน
1. | ตรวจสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง | |
2. | ควบคุมน้ำหนักตัวให้คงที่ ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป | |
3. | ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่หักโหมอย่างน้อยครั้งละ 30 นาที บ่อยเท่าที่สามารถทำได้ | |
4. | งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อย | |
5. | เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ เน้นรับประทานผักและผลไม้ให้มาก หากไม่ขัดกับโรคประจำตัวอื่นๆ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสเค็ม หวานจัด และมีไขมันสูง เช่น เครื่องในสัตว์ ไขมันจากสัตว์ กะทิ อาหารผัดทอดต่างๆ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น